LEED มาตรฐานอาคารสีเขียวแห่งความยั่งยืน ระดับโลก

 

ในปัจจุบันนี้ การปกป้องสิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญมาก ในหลายประเทศทั่วโลกตระหนักเล็งเห็นความสำคัญในการลงทุนด้านนี้มากขึ้น ถือเป็นภาระกิจเร่งด่วนที่สุด ของนานาประเทศ นอกจากการประหยัดพลังงาน การผลักดันให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการก่อก๊าซเรือนกระจกสาเหตุของโลกร้อน วิถีชีวิตชุมชนโดยรอบดีขึ้น สิ่งก่อสร้างหรืออาคารยังได้รับใบรับรองความยั่งยืนด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากองค์กรต่าง ๆ เช่น LEED Verified

 

มาทำความรู้จัก LEED กันเถอะ

หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกับ อาคารสีเขียว หรือ Green Building ซึ่ง LEED และ WELL เป็นมาตรฐานชี้วัดว่า อาคารสีเขียวเหล่านั้น มีความยั่งยืนด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่

WELL และ LEED แตกต่างกันอย่างไร?

WELL Building Standard เน้นควบคุมคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยภายในโครงการหรืออาคาร แบบ Looking Inside

LEED มีขนาดการควบคุมที่ใหญ่กว่าและกว้างกว่า WELL

LEED ไม่ได้เน้นแค่คุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยภายในโครงการหรือตัวอาคาร แต่ยังควบคุมไปถึงคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบอีกด้วย หรือ Looking Outside

 

วันนี้ K.S. WOOD จะพาทุกท่านมารู้จัก LEED Standard

LEED ย่อมาจาก Leadership in Energy and Environmental Design เป็นการออกแบบอาคารโดยคำนึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ยกระดับคุณภาพชีวิตและใส่ใจสุขภาพของผู้ใช้อาคารกันอย่างจริงจัง

ระบบการประเมิน LEED

LEED มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้ได้กับอาคารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักส่วนตัว มหาวิทยาลัย โรงแรม หรืออาคารสำนักงา

 

หมวดอาคารต่าง ๆ ในระบบ LEED

BD + C: การออกแบบและก่อสร้างอาคาร: การก่อสร้างและปรับปรุงใหม่      

อาคารใหม่ หรืออาคารเก่าที่มีการปรับปรุงมากกว่า 40-60% ของตัวอาคาร มีระบบที่ดีกว่าเดิม นับว่าเป็นอาคารใหม่

 

ID + C: การออกแบบภายในและก่อสร้าง

การออกแบบภายในอาคารที่เป็นไปตามการลดพลังงานต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นร้านค้าในห้างสรรพสินค้า (หากเป็นตัวห้างสรรพสินค้าจะอยู่ในหมวด BD+C)

 

O + M: อาคารที่มีอยู่และการบำรุงรักษา

อาคารเก่า มีการปรับปรุงอาคารและระบบให้มีการประหยัดพลังงานมากขึ้น และสิ่งที่รื้อถอนออกมานั้น มีการกำจัดที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยมาก

 

ND: การพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียง

เป็นการประเมินเมืองหรือหมู่บ้าน แคมปัส มหาวิทยาลัย และชุมชนขนาดใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร เท็กซัส เป็นต้น ในไทยยังไม่เคยได้รับการประเมินในหมวดนี้

 

Homes: ที่อยู่อาศัย

เป็นการประเมินอาคารที่พักอาศัยไม่เกิน 3 ชั้น โดยจะมีบุคลที่สาม จากทาง LEED มาประเมินหน้างานจริง แตกต่างจากสามหมวดแรกที่สามารถตรวจสอบ รายงานเป็นเอกสาร ส่งออนไลน์ไปให้กับทางองค์กร LEED ได้ ซึ่งในประเทศไทยยังไม่เคยได้รับการประเมินในหมวดนี้

 

 

LEED Scores

LEED ส่งเสริมการออกแบบอาคารอย่างยั่งยืนโดยตระหนักถึงประสิทธิภาพของอาคารในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • กระบวนการเชิงบูรณาการ Integrative Process
  • พื้นที่ยั่งยืน Sustainable Sites
  • สถานที่และการขนส่ง Location and Transportation
  • ประสิทธิภาพของการใช้น้ำ Water Efficiency
  • พลังงานและชั้นบรรยากาศ Energy and Atmosphere
  • คุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร Indoor Environmental Quality
  • นวัตกรรมในการออกแบบ Innovation in Design

 

ดังนั้น LEED Scores ประเมินอย่างไรบ้าง

LEED คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 110 คะแนน แบ่งการประเมินตามหัวข้อต่าง ๆ ดังนั้น

 

1. การใช้ประโยชน์จากสถานที่ตั้งอย่างยั่งยืน (Sustainable Sites: SS) สูงสุด 10 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

การสร้างผลกระทบต่อที่ตั้งอาคารต่ำ เพิ่มพื้นที่เปิดโล่งสีเขียว ลดการเกิดน้ำท่วมล้น ลดปรากฎการณ์เมืองร้อน และลดการก่อมลภาวะทางแสง

ความรับผิดชอบของผู้รับเหมา การปล่อยของเสียจากไซต์งานสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก เช่นฝุ่น ผง สารเคมี

การประเมินที่ตั้งโครงการ ดิน การอนุรักษ์ สัตว์หรือพืชที่อาศัยบริเวณนั้น

การประเมิน ก่อนและหลังการก่อสร้างอาคาร ว่าผลมีต่อสัตว์ พืช ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นอย่างไรบ้าง รวมถึงการปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เพื่อรักษาระบบนิเวศตามข้อกำหนดต่าง ๆ

การมีพื้นที่ว่าง การทำพื้นที่สีเขียว

การกักเก็บน้ำฝนภายในพื้นที่ เช่น การชะลอไม่ให้น้ำท่วมทะลักออกจากพื้นที่ตามระยะเวลาที่กำหนด มักสร้างบ่อน้ำ บึง (บ่อหรือสระคอนกรีตจะไม่ได้รับคะแนน)

การลดปรากฏการณ์ความร้อนต่าง ๆ เช่น การเลือกใช้วัสดุสีอ่อน คอนกรีตสีขาว การทำหลังคา แผงโซล่าร์เซลล์

สามารถจอดรถใต้อาคารได้ทั้งหมด และการลดมลพิษแสงต่าง ๆ

 

2. ที่ตั้ง และการคมนาคมขนส่ง (Location and Transportation) สูงสุด 16 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

ลดการใช้พาหนะส่วนตัวในการเดินทาง การบริหารจัดการที่จอดรถอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ตั้ง ผังเมือง การปรับสภาพพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้งานให้สามารถใช้งานได้

ที่ตั้งโครงการอยู่ในพื้นที่ที่เป็นคอมมูนิตี้ สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ซื้อของ ออกกำลังกาย ไปธนาคาร โดยใช้การคมนาคมน้อยที่สุด

 

3. การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ (Water Efficiency : WE) สูงสุด 11 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

ลดปริมาณความต้องการน้ำสะอาดให้น้อยที่สุดไปใช้ในงานดูแลสวน น้ำใช้ในห้องน้ำ และโถปัสสาวะ ตลอดจนลดปริมาณการใช้ในน้ำในอาคารโดยรวม

การปลูกต้นไม้หรือพืชที่ลดการรดน้ำ หรือไม่ต้องรดน้ำเลย

 

4. พลังงาน และบรรยากาศ (Energy and Atmosphere : EA) สูงสุด 33 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

ลดปริมาณการใช้พลังงาน สนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทดแทน จัดทำระบบที่สามารถวัดการใช้พลังงาน

ไม่ใช้สารทำความเย็นที่มี CFC เพื่อลดการทำลายชั้นโอโซน รวมไปถึงการจัดหาพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ได้รับการรับรองว่าผลิตจากพลังงานทดแทน

 

5. วัสดุ และทรัพยากร (Material and Resources : MR) สูงสุด 13 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

เลือกใช้วัสดุและทรัพยาการในการก่อสร้าง มีการเตรียมพื้นที่คัดแยกขยะเพื่อการรีไซเคิล การนำอาคารหรือองค์ประกอบของอาคารมาใช้ใหม่

การลดขยะจากการก่อสร้าง การใช้วัสดุรีไซเคิล การใช้วัสดุพื้นถิ่น การใช้วัสดุปลูกทดแทนได้เร็ว และ การใช้ไม้ที่ผ่านการรับรองว่ามาจากป่าทดแทนที่มีการรับรอง เช่น EPD Certificate

 

6. คุณภาพสภาพแวดล้อมในอาคาร (Indoor Environmental Quality : IEQ) สูงสุด 16 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

ควบคุมสภาวะอากาศภายในอาคารเพื่อสภาวะอยู่สบายและสุขภาพที่ดีของผู้ใช้อาคาร โดยพิจารณาในเรื่องการระบายอากาศ

การดำเนินการจัดการกับมลภาวะทางอากาศที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในระหว่างการก่อสร้างและระหว่างการใช้งานอาคาร

การเลือกใช้วัสดุที่มีสารระเหยที่เป็นพิษต่ำ การส่งเสริมสภาวะอยู่สบายที่ผู้ใช้อาคารสามารถควบคุมได้เอง

การใช้แสงธรรมชาติและการออกแบบอาคารให้มองเห็นบรรยากาศภายนอก รวมถึงการป้องกันการเกิดเชื้อราที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย

 

7. Innovation Design (นวัตกรรมในการออกแบบ: ID) สูงสุด 6 คะแนน

ในหมวดนี้ จะประเมิน

นำวิธีการหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกำหนดในมาตรฐานมาใช้ รวมถึงการทำได้มากกว่าที่เกณฑ์กำหนด

การแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรม ให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

 

ในหมวดนี้ จะประเมิน

เนื่องจากปัญหาสภาพแวดล้อมบางอย่างอาจจะเป็นเรื่องเฉพาะถิ่น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้โครงการก่อสร้างตระหนัก และเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ

 

 

 

 

เกณฑ์การรับ LEED Verified

 

  • Certified: 40-49 points
  • Silver: 50-59 points
  • Gold: 60-79 points
  • Platinum: 80+ points

 

รายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก ดังนั้น หากท่านใดสนใจอยากทำคะแนนในส่วนไหน สามารถศึกษาเพิ่มเติม ออกแบบ และบริหาร ให้ตรงตามเกณฑ์ข้อกำหนด เพียงเท่านี้ ก็สามารถทำคะแนนได้แล้ว

 

 

Reference:

  • LEED & WELL

https://www.thelightingpractice.com/lighting-the-way-for-leed-well-certification/

  • LEED DEVELOPMENT MANAGEMENT GROUP

https://www.dmg-thailand.com/leed-green-building-certification-thailand/

  • LEED, WELL and Green Building

https://www.youtube.com/channel/UCoEPG0g8Xaxy2i9JQb2-L2A/videos

  • LEED Green Associate Study Guide

https://leadinggreen.com/wp-content/uploads/2013/12/LeadingGreen-LEED-GA-Study-Guide-v4-ed.pdf

  • LEED V4.1 Update Seminar

https://www.greenbuildinglawupdate.com/2017/11/articles/leed/leed-v4-1-announced-by-usgbc-at-greenbuild/

  • LEED NEWS

https://www.jorakay.co.th/blog/professional/others/leedv4-standard