หลายคนมักจะเข้าใจกันอยู่เสมอว่า ต้นไม้ต่างๆ ในบ้านต้องชื่นชอบฤดูฝนอันชุ่มฉ่ำนี้แน่นอน เพราะได้รับน้ำอย่างเต็มที่จนเจ้าของบ้านแทบไม่ต้องเดินออกมารดน้ำเพิ่มเติมอีก แต่นั่นคือเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะต้นไม้บางต้นอาจไม่สามารถรับน้ำในปริมาณมากๆ ได้ สุดท้ายก็จะเหี่ยวเฉาและตายจากไป

แล้วจะต้องดูแลต้นไม้ในสวนหลังบ้านอย่างไรให้สวยตลอดหน้าฝน มาดูเทคนิคไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

กำจัดวัชพืช

วัชพืชที่คิดว่าเรากำจัดออกไปหมดเรียบร้อยในช่วงหน้าร้อน มีโอกาสจะกลับมาเยือนอีกครั้งในช่วงหน้าฝน และอาจเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง เมื่อวัชพืชโตมากเกินควบคุม อาจทำให้ต้นไม้บางต้นอ่อนแอและเหี่ยวเฉา เนื่องจากถูกแย่งแสงแดด น้ำ และอาหาร เพราะฉะนั้น หากเจอวัชพืชเมื่อไร ให้รีบถอนทิ้งทั้งรากทั้งโคนกันไปเลย ก่อนที่จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคสำหรับต้นไม้ และยากเกินจะกำจัดด้วยตัวเอง

ตัดแต่งต้นไม้อยู่เสมอ

 

สำหรับบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ความร่มรื่นแก่คนในบ้าน ต้องคอยดูแลไม่ให้มีกิ่งก้านมากเกินไปด้วยการตัดแต่งเป็นประจำ โดยเฉพาะกิ่งก้านที่มีขนาดเล็ก เพราะถ้าหากฝนตกหนักและมีลมกระโชกรุนแรง จะทำให้กิ่งก้านเหล่านี้สะสมน้ำไว้มากและเอนไปตามแรงลม ทำให้มีโอกาสหักหรือฉีกขาดจนได้รับความเสียหาย อาจเป็นอันตรายต่อบ้าน และคนในบ้าน และหากเป็นต้นไม้ใหญ่ที่เพิ่งเอามาลงดินได้ไม่นาน ต้องหาไม้มาช่วยค้ำหรือพยุง เพราะรากยังไม่แข็งแรง มีโอกาสที่จะหักโค่นลงมา

ทำทางระบายน้ำ

 

เมื่อพายุฝนโหมกระหน่ำจากไปแล้ว สิ่งที่เหลือทิ้งไว้คือน้ำขังตามโคนต้นไม้ ถ้าหากไม่ดูแลในส่วนนี้จะทำให้รากต้นไม้เน่า และต้นไม้ก็จะยืนต้นตายไปในที่สุด เพราะฉะนั้น ควรทำทางระบายน้ำด้วยการพรวนดินรอบต้นไม้ให้ร่วนซุยที่สุด เพื่อให้น้ำสามารถซึมลงดินได้ลึก และทำทางระบายน้ำด้วยการขุดดิน หรือวางท่อเล็กๆ ให้น้ำไหลออกไปจากบริเวณสวนได้ง่าย

เลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี

 

หลายบ้านอาจเคยชินกับการใช้ปุ๋ยเคมีในการดูแลต้นไม้ ด้วยความสะดวกและกลิ่นที่ไม่รุนแรงมาก แต่ในหน้าฝนควรหันมาใช้ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยชีวภาพเป็นการชั่วคราว เพราะเมื่อฝนตกหนัก หน้าดินพร้อมกับปุ๋ยเคมีจะถูกชะล้างไปกับน้ำ อาจทำให้สิ่งมีชีวิตใต้ดินอย่างไส้เดือน และจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์กับต้นไม้ ได้รับสารเคมีเหล่านี้จนตาย ซึ่งจะส่งผลกับดินในอนาคต

เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีสวนสวยไว้อวดผู้มาเยือนตลอดหน้าฝนแล้ว