การปลูกต้นไม้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ และเลือกทำเสมอเมื่อมีเวลาว่าง แต่หลายครั้งที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้เหล่านั้น จนต้องตัดใจให้แห้งตายบ้าง เหี่ยวฉาวบ้าง จากที่จะเพิ่มความสดชื่นให้แก่บ้าน กลับกลายเป็นว่าสร้างความเหี่ยวฉาวให้บ้านดูหม่นหมองไปอีก วันนี้ K.S. WOOD นำพรรณไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลน้อย อยู่รอดแน่นอนแม้ไม่มีเวลา

  1. ไผ่กวนอิม

ไผ่กวนอิม ดูแลง่าย เพียงให้น้ำ ต้นไผ่นี้ก็สามารถเจริญเติมโตได้ดี แม้จะไม่โดนแสงแดดเพียงรำไร

เคล็ดลับ : สามารถใส่ปุ๋ยธาตุเหล็กเป็นครั้งคราวได้ เพื่อให้ไผ่กวนอิมเจริญเติบโตแข็งแรงมากขึ้น

 

  1. คลาสซูล่า หรือ หยกโรงงาน

เป็นพืชที่สามารถปลูกในอาคารได้ เป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก พืชชนิดนี้เป็นไม้อวบน้ำ ควรปลูกลงดินที่มีการระบายน้ำได้ดี หากดินแห้งควรรดน้ำให้ชุ่ม 4-5วัน/ครั้ง ไม่แนะนำให้ตั้งบริเวณที่แดดแรงๆ เช่น ริมหน้าต่างเพราะกิ่งก้านใบจะไหม้ได้ ดังนั้นปลูกบริเวณไหนก็ได้ที่ไม่โดดแดดแรงจนเกินไป

เคล็ดลับ : อย่ารดน้ำจนดินแฉะหรือบ่อยจนเกินไป

 

  1. ต้นปาล์มหางม้า

ต้นปาล์มหางม้า เป็นหนึ่งในไม้ตระกูลของลิลลี่ เป็นพืชที่ดูหรูหราและแปลกตา เหมาะสำหรับการปลูกประดับบ้านเป็นอย่างมาก หรือบางคนอาจจะรู้จักในชื่อ ปาล์มเท้าช้าง เนื่องจากมีลำต้นที่บวมอวบ ซึ่งเกิดจากการกักเก็บน้ำ ดังนั้นควรปลูกในกระถางมีขนาดใหญ่พอเหมาะ สามารถเจริญเติบโตได้ง่าย อายุยืนยาว ทนแต่อากาศแห้งได้ดี แม้จะปลูกในห้องที่มีอุณหภูมิสูง

เคล็ดลับ : หลีกเลี่ยงการรดน้ำบ่อย ควรรดเฉพาะเมื่อดินแห้งเท่านั้น

 

  1. พลูด่าง

ต้นพลูด่างมีหลายพรรณ บ้างก็มีใบสีเขียวเหลืองรูปหัวใจ ปลูกง่าย แม้ไม่มีเวลาดูแล พลูด่างจะเจริญเติบโตได้ดี แม้สภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวย เช่น อากาศแห้ง

เคล็ดลับ : ทำการรดน้ำปานกลาง และห้ามวางไว้ที่โดนแดดโดนตรง

 

  1. ต้นลิ้นมังกร

ต้นลิ้นมังกร เป็นหนึ่งในพรรณไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการฟอกอากาศได้ดี มีใบสีเขียวเข้ม ลักษณะใบเรียว ยาวตรงและมีลวดลาย ซึ่งมีลักษณะคล้ายงู บางคนจึงเรียกว่า พืชงู หรือ Snake Plant นิยมปลูกในบ้าน หรือห้องนอน รวมถึงห้องในสำนักงานต่างๆ อีกด้วย ปลูกง่าย โดยปลูกลงกระถางที่มีความแข็งแรงมากหน่อย เนื่องจากรากของต้นลิ้นมังกรจะแทรกออกมา ทำให้กระถางอาจแตกได้ง่ายในอนาคต นำไปไว้ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพราะจะทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดี และสามารถผลิตออกซิเจนได้ดีอีกด้วย รดน้ำสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันดินแห้ง และไม่ควรรดน้ำมากจนเกินไป รากจะเน่าได้ ควรรอดินแห้งแล้วค่อยรดใหม่

เคล็ดลับ : หากมีฝุ่นเกาะใบ ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฝุ่นที่ใบออก ไม่ควรรดน้ำเพื่อกำจัดฝุ่น

 

  1. กวักมรกต

ต้นกวักมรกต เป็นหนึ่งในพรรณไม้ที่ปลูกง่าย เหมาะสำหรับคนที่ขี้เกียจรดน้ำ ปลูกในร่ม มีขนาดพอดีกำลังสวย สูงประมาณ 80-100 cm. ปลูกวางไว้มุมไหนในบ้านก็ดูสวย ดูคลูไปหมด ซึ่งไม้พรรณนี้มีอยู่ 2 สี คือเขียวกับดำ แต่ละสีก็มีราคาแตกต่างกันไป  ควรปลูกด้วยดินร่วน ไม่ชอบดินแฉะ ๆ ดังนั้นให้ดินแห้งก่อนค่อยรดน้ำ แสงแดดเบาบางไม่จ้าก็อยู่ได้

เคล็ดลับ : กวักมรกตเป็นพืชอวบน้ำ กักน้ำได้ดี รดน้ำอาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ครั้งก็ได้

 

  1. ต้นว่านหางจระเข้

ต้นว่านห่างจระเข้ปลูกง่าย ชอบแสงจัด ควรปลูกไว้หน้าบ้าน ระเบียงคอนโด หรือบริเวณที่แดดส่องถึงมากเพียงพอ ต้นว่านหางจระเข้เป็นพืชอวบน้ำ ที่มีน้ำในลำต้นหรือใบมากถึง 95% ดังนั้นให้รดน้ำเมื่อดินแห้งเท่านั้น

เคล็ดลับ : ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน จนถึงเดือนกันยายน ต้นว่านหางจระเข้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราสามารถช่วยเร่งการเจริญเติบโตได้โดยการใส่ปุ๋ยสองครั้งต่อเดือน และห้ามใส่ปุ๋ยในช่วงฤดูหนาว เพราะต้นว่านหางจระเข้จะไม่ดูดซึมปุ๋ยเข้าไป หากไม่ได้อยู่ในช่วงการเจริญเติบโต

 

  1. เดหลี

เดหลี (Peace Lily)  เป็นต้นใบเขียวเข้มมันเงา และดอกสีขาว ออกดอกตลอดลักษณะคล้ายกับดอกหน้าวัวไทย ซึ่งดอกเดหลีเป็นหนึ่งในพรรณไม้จากจำนวนทั้งหมด 31 ชนิด ที่องค์กรนาซ่าพบว่าเป็นต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้อย่างดีเยี่ยม โดยการดูดสารพิษด้วยกรรมวิธีการคายน้ำ

เดหลีถือว่าเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย ตายยาก เติบโตได้ในบริเวณที่มีแสงน้อย หากปลูกในอาคารย่อมปรับตัวได้ดี มีเพียงแค่แสงจากหลอดไฟ และดินที่ชุ่มอยู่เสมอ แค่นี้เดหลีก็อยู่ได้แล้ว

 

  1. ต้นสาวน้อยประแป้ง

สาวน้อยประแป้ง (Dumbcane) เป็นพรรณไม้ที่เลี้ยงและดูแลรักษาง่าย เป็นพืชที่ต้องการแสงสว่างที่เพียงพอ แต่ก็สามารถเจริญงอกงามได้ดีในที่มีแสงรำไร แต่ถ้าให้ถูกแสงแดดโดยตรงก็อาจจะทำให้ใบไหม้ได้ ชอบอากาศชื้น ควรปลูกในดินร่วนผสมกับปุ๋ยอินทรีย์เช่น ปุ๋ยคอก

เคล็ดลับ : ควรรดน้ำอย่าให้แฉะ เพราะต้นสาวน้อยประแป้งไม่ชอบความชื้นแฉะของดิน ต้องการน้ำเพียงปานกลาง ยางของต้นสาวน้อยประแป้งอันตรายมาก ควรระมัดระวังในการสัมผัสยางโดยตรง และห้ามรับประทานโดยเด็ดขาด หากรับประทานเข้าไป พิษของยางสามารถทำให้เสียชีวิตได้

 

  1. ต้นยางอินเดีย

ยางอินเดีย (Rubber Plant) เป็นไม้ประดับที่มีใบหลายชนิด นอกจากใบที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว บางชนิดยังปลูกง่าย แถมช่วยดักจับฝุ่นและฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี ยางอินเดียเป็นพรรณไม้ที่โตเร็ว เลี้ยงง่าย เจริญเติบโตได้ดีทั้งกลางและที่มีแสงน้อย ต้องการน้ำปานกลาง ไม่ชอบน้ำขังแฉะ ปลูกเป็นไม้กระดางประดับอาคารได้ และควรหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดเช็ดใบเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น

 

  1. แก้วกาญจนา หรือ เขียวหมื่นปี

แก้วกาญจนา หรือเขียวหมื่นปี คนโบราณเรียกพรรณไม้ชนิดว่า ว่านขันหมา เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ที่มีลักษณะของลำต้นสีเขียว  ใบสีเขียวสดไปจนถึงสีเขียวเข้ม  มีความแข็งแรง เติบโตได้ดี ควรรดน้ำทุกวัน หรือสองวันครั้ง และระวังไม่ให้น้ำชุ่มมากจนเกินไป

 

  1. ต้นไอวี่อังกฤษ

ต้นไอวี่อังกฤษ เป็นพรรณไม้เลื้อยที่ควรปลูกในที่แจ้ง แต่ก็สามารถปลูกภายในอาคารได้เช่นกัน ปลูกเลี้ยงในกระถาง รดน้ำ3-4 วันครั้ง หรือรอให้ดินแห้งก่อนแล้วค่อยรดก็ได้ และควรปลูกไว้ในที่ที่โดนแดดรำไร ไม่จัดจนเกินไป

ทั้ง 12 พรรณไม้นี้ สามารถหาซื้อมาเลี้ยงได้ง่าย หากใครสนใจอยากเลี้ยงแต่ไม่มีเวลา ก็เลี้ยงพรรณไม้เหล่านี้มาปลูกได้นะคะ