Slide

หลักการพิจารณาเลือกซื้อพื้นไม้ SPC

การเลือกพื้นบ้านเป็นเรื่องสำคัญ เพราะพื้นบ้านไม่เพียงแต่เป็นองค์ประกอบหลักของบ้านที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกในการอยู่อาศัย ความสะดวกสบาย และความสวยงามโดยรวมอีกด้วย ในปัจจุบัน “พื้นไม้ SPC” (Stone Plastic Composite) กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่อความชื้น ปลวกไม่กิน ติดตั้งง่าย และมีลวดลายสวยงามคล้ายไม้จริง แต่ด้วยพื้นไม้ SPC ที่มีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่นในท้องตลาด การพิจารณาเลือกซื้ออย่างถี่ถ้วนจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกหลักการพิจารณาเลือกซื้อพื้นไม้ SPC เพื่อให้คุณได้พื้นบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด

ทำความรู้จักกับพื้นไม้ SPC

ก่อนที่เราจะไปดูหลักการเลือกซื้อพื้นไม้ SPC เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าพื้นไม้ SPC คืออะไร และมีข้อดีอย่างไร เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและเข้าใจถึงเหตุผลที่พื้นไม้ชนิดนี้ได้รับความนิยม

พื้นไม้ SPC คืออะไร?

พื้นไม้ SPC คือพื้นไวนิลชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากพื้นไวนิล LVT (Luxury Vinyl Tile) โดยมีส่วนผสมหลักเป็นผงหิน (Stone) และพลาสติก (Plastic) ทำให้พื้น SPC มีความแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำได้ดีกว่าพื้นไวนิลทั่วไป โครงสร้างหลักของพื้นไม้ SPC ประกอบด้วยชั้นต่างๆ ดังนี้

  1. ชั้นป้องกันรอยขีดข่วน (Wear Layer): เป็นชั้นบนสุด ทำหน้าที่ป้องกันรอยขีดข่วน รอยเปื้อน และการสึกหรอ ทำให้พื้นผิวสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน
  2. ชั้นฟิล์มลาย (Decorative Layer): เป็นชั้นที่พิมพ์ลวดลายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ ลายหินอ่อน หรือลายอื่นๆ เพื่อความสวยงามและตอบโจทย์การตกแต่งที่หลากหลาย
  3. ชั้นแกนกลาง SPC (SPC Core): เป็นชั้นหลักที่ทำจากส่วนผสมของผงหินและพลาสติก มีความหนาแน่นสูง แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก และกันน้ำได้ดี
  4. ชั้นฐานรอง (Underlayment – Optional): บางรุ่นอาจมีชั้นฐานรองด้านล่าง เพื่อช่วยลดเสียงดังขณะเดิน และเพิ่มความนุ่มสบายในการสัมผัส

ข้อดีของพื้นไม้ SPC

  • ทนทานต่อความชื้นและน้ำ: พื้นไม้ SPC ไม่บวมน้ำ ไม่ขึ้นรา หมดกังวลเรื่องปัญหาพื้นบวมพองเมื่อโดนน้ำ เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ในบ้าน โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำ และบริเวณที่มีความชื้นสูง
  • ปลวกและแมลงไม่กิน: ด้วยส่วนผสมหลักที่เป็นผงหินและพลาสติก ทำให้พื้นไม้ SPC ไม่เป็นอาหารของปลวกและแมลง หมดปัญหาเรื่องปลวกกัดกินพื้นไม้
  • ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: พื้นไม้ SPC ส่วนใหญ่มาพร้อมระบบคลิกล็อค (Click Lock) ทำให้ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องใช้กาว ไม่เลอะเทอะ และสามารถติดตั้งเองได้
  • ดูแลรักษาง่าย: พื้นไม้ SPC ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่กวาดและถูด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำยาทำความสะอาดพื้นทั่วไป
  • ลวดลายสวยงามคล้ายไม้จริง: เทคโนโลยีการพิมพ์ลายที่ทันสมัย ทำให้พื้นไม้ SPC มีลวดลายที่สวยงามสมจริงคล้ายไม้จริง มีให้เลือกหลากหลายเฉดสีและลวดลาย ตอบโจทย์ทุกสไตล์การตกแต่ง
  • ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับพื้นไม้จริงหรือพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ SPC มีราคาที่คุ้มค่ากว่า และยังมาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกมากมาย

หลักการพิจารณาเลือกซื้อพื้นไม้ SPC

เมื่อทราบถึงข้อดีของพื้นไม้ SPC แล้ว เรามาดูหลักการพิจารณาเลือกซื้อเพื่อให้ได้พื้นไม้ SPC ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

คุณภาพวัสดุและการผลิต

  • ส่วนผสมหลัก: ตรวจสอบส่วนผสมหลักของพื้นไม้ SPC ว่ามีสัดส่วนของผงหินและพลาสติกที่ได้มาตรฐานหรือไม่ โดยทั่วไปพื้น SPC ที่มีคุณภาพดีควรมีสัดส่วนของผงหินสูง เพื่อความแข็งแรงและทนทาน
  • กระบวนการผลิต: เลือกซื้อจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพื้นไม้ SPC มีคุณภาพสม่ำเสมอ
  • ตรวจสอบใบรับรอง: มองหาพื้นไม้ SPC ที่มีใบรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น ISO, FloorScore เพื่อยืนยันคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

ความหนาของพื้นไม้

  • ความหนาโดยรวม: ความหนาของพื้นไม้ SPC มีผลต่อความแข็งแรงและความทนทาน โดยทั่วไปความหนาที่นิยมใช้คือ 4 มม., 5 มม., และ 6 มม. ควรเลือกความหนาที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก หรือมีเฟอร์นิเจอร์น้ำหนักมาก ควรเลือกความหนาที่มากขึ้น
  • ความหนาของชั้นแกนกลาง SPC: ชั้นแกนกลาง SPC เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พื้นแข็งแรง ควรพิจารณาความหนาของชั้นแกนกลางควบคู่ไปกับความหนาโดยรวม เพื่อให้มั่นใจในความทนทาน

ชั้นผิวหน้า (Wear Layer)

  • ความหนาของชั้นผิวหน้า: ชั้นผิวหน้าทำหน้าที่ป้องกันรอยขีดข่วน ควรเลือกพื้นไม้ SPC ที่มีชั้นผิวหน้าหนา เพื่อความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว โดยทั่วไปความหนาของชั้นผิวหน้าที่เหมาะสมคือ 0.3 มม. ขึ้นไป หากเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานบ่อย หรือมีเด็กและสัตว์เลี้ยง ควรเลือกความหนาของชั้นผิวหน้าที่มากขึ้น เช่น 0.5 มม.
  • วัสดุชั้นผิวหน้า: วัสดุที่ใช้ทำชั้นผิวหน้าก็มีความสำคัญ วัสดุ PU (Polyurethane) เป็นที่นิยมใช้เนื่องจากมีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยเปื้อนได้ดี

ระบบติดตั้ง

  • ระบบคลิกล็อค (Click Lock): ระบบคลิกล็อคเป็นระบบติดตั้งที่ได้รับความนิยมสำหรับพื้นไม้ SPC เนื่องจากติดตั้งง่าย รวดเร็ว และไม่ต้องใช้กาว ควรเลือกระบบคลิกล็อคที่มีคุณภาพดี ล็อคแน่นหนา ไม่หลุดง่าย
  • ระบบติดตั้งแบบอื่น: นอกจากระบบคลิกล็อคแล้ว ยังมีระบบติดตั้งแบบอื่น เช่น ระบบ Dry Back (ต้องใช้กาว) ควรพิจารณาระบบติดตั้งที่เหมาะสมกับความถนัดและงบประมาณของคุณ

ราคาและความคุ้มค่า

  • เปรียบเทียบราคา: เปรียบเทียบราคาพื้นไม้ SPC จากหลายๆ แบรนด์ หลายๆ ร้านค้า เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่า
  • พิจารณาคุณภาพและคุณสมบัติ: อย่ามองแค่ราคาถูก แต่ให้พิจารณาคุณภาพและคุณสมบัติของพื้นไม้ SPC ควบคู่ไปด้วย เลือกพื้นไม้ SPC ที่มีคุณภาพดี มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ และมีราคาที่สมเหตุสมผล

ดีไซน์และสไตล์

  • เลือกสีและลาย: เลือกสีและลายของพื้นไม้ SPC ให้เข้ากับการตกแต่งบ้านของคุณ มีพื้นไม้ SPC ให้เลือกหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์น สไตล์มินิมอล สไตล์ลอฟท์ หรือสไตล์คลาสสิก
  • ขนาดและรูปแบบ: พิจารณาขนาดและรูปแบบของแผ่นพื้น SPC ให้เหมาะสมกับขนาดและรูปร่างของห้อง เพื่อความสวยงามและลงตัว

แบรนด์และชื่อเสียง

  • เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ: เลือกซื้อพื้นไม้ SPC จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย
  • อ่านรีวิวและคำแนะนำ: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประกอบการตัดสินใจ

การรับประกัน

  • ตรวจสอบการรับประกัน: ตรวจสอบการรับประกันสินค้าจากแบรนด์หรือร้านค้า เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า และได้รับการดูแลหากเกิดปัญหาในระยะยาว
  • เงื่อนไขการรับประกัน: อ่านเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียด เพื่อทำความเข้าใจถึงขอบเขตการรับประกันและระยะเวลาการรับประกัน

มาตรฐานและการรับรอง

  • มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.): ตรวจสอบว่าพื้นไม้ SPC มีมาตรฐาน มอก. หรือไม่ เพื่อยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย
  • มาตรฐานอื่นๆ: นอกจาก มอก. แล้ว อาจมีมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ควรพิจารณามาตรฐานต่างๆ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

การเลือกซื้อพื้นไม้ SPC อย่างรอบคอบและพิจารณาตามหลักการต่างๆ ที่กล่าวมา จะช่วยให้คุณได้พื้นบ้านที่สวยงาม ทนทาน คุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างลงตัว อย่าลืมให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัสดุ ความหนาของพื้นไม้ ชั้นผิวหน้า ระบบติดตั้ง ราคา ดีไซน์ แบรนด์ การรับประกัน และมาตรฐานต่างๆ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับพื้นไม้ SPC ที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ

หลักการพิจารณาเลือกซื้อพื้นไม้ SPC