พื้นไม้ WPC

พื้นไม้ wpc คืออะไร?

พื้นไม้ WPC ทางเลือกยอดนิยมในหมู่ นักออกแบบ ผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน เนื่องจากเป็นวัสดุที่ผสมผสานข้อดีของไม้ธรรมชาติกับพลาสติกเข้าด้วยกัน

พื้นไม้ WPC ย่อมาจาก Wood Plastic Composite  เป็นวัสดุที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านความสวยงาม ความคงทน และการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับพื้นที่ต้องเจอกับแดด ฝน และความชื้นตลอดเวลา

ไม้พื้น WPC ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะสามารถทดแทนไม้จริงที่มักมีปัญหาเรื่องปลวกและการผุกร่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าอีกด้วย

ส่วนประกอบพื้นไม้ WPC 

1.ผงไม้ (Wood Powder): หัวใจจากธรรมชาติ

  • แหล่งที่มา: ผงไม้ที่นำมาใช้ในการผลิต WPC ส่วนใหญ่มักมาจาก ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า หรือไม้เต็ง ที่ผ่านกระบวนการบดละเอียดจนมีลักษณะคล้ายแป้ง
  • บทบาทและคุณสมบัติ: การเติมผงไม้เข้าไปในส่วนผสมมีจุดประสงค์หลักเพื่อ ให้ WPC มีลักษณะและสัมผัสที่เป็นธรรมชาติคล้ายไม้จริง นอกจากนี้ ผงไม้ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานให้กับวัสดุในระดับหนึ่ง

2. พลาสติก (Plastic): เสริมความแข็งแกร่งและทนทาน

  • ประเภทที่นิยมใช้: พลาสติกที่มักนำมาใช้ในการผลิต WPC ได้แก่ HDPE (High-Density Polyethylene) และ PVC (Polyvinyl Chloride) ซึ่งเป็นพลาสติกที่ ผ่านกระบวนการรีไซเคิล มาแล้ว ทำให้ WPC เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • บทบาทและคุณสมบัติ: พลาสติกมีบทบาทสำคัญในการ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความทนทานต่อสภาพอากาศ ความชื้น และแมลง ให้กับ WPC โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติที่ไม่ดูดซึมน้ำและไม่บิดงอ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือกว่าไม้จริง

คุณสมบัติและข้อดีของพื้นไม้ WPC

    • ลักษณะคล้ายไม้จริง: ด้วยส่วนผสมของผงไม้ ทำให้ WPC มีลวดลายและสีสันที่ใกล้เคียงกับไม้ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสวยงาม
    • ทนทานกว่า: พลาสติกที่ผสมอยู่ใน WPC ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก รอยขีดข่วน และการสึกหรอ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าไม้จริง
    • ทนแดด ทนฝน: WPC สามารถทนทานต่อรังสี UV และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ไม่ซีดจาง กรอบแตก หรือผุพังง่าย
    • ไม่ดูดซึมน้ำ: คุณสมบัติเด่นของพลาสติกทำให้ WPC ไม่ดูดซึมน้ำ ป้องกันปัญหาการบวม การพองตัว และการเกิดเชื้อรา
    • ไม่บิดงอ: WPC มีความแข็งแรงและมีความเสถียรของมิติสูง ทำให้ไม่เกิดปัญหาการบิดงอ โก่ง หรือแตกร้าว เหมือนไม้จริง

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและเหนือกว่า ทำให้ไม้พื้น WPC เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการวัสดุปูพื้นที่สวยงาม ทนทาน และดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นระเบียง พื้นสวน พื้นสระว่ายน้ำ หรือพื้นภายในบ้าน

Our Products

CLICK

Why Choose Us ?

  • คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
    ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย เพื่อให้ได้ไม้เทียมที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นฝน แดด หรือความชื้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกพื้นที่

  • รักษ์สิ่งแวดล้อม
    ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม้เทียมของเราไม่เพียงแต่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน

  • ติดตั้งง่ายและประหยัดเวลา
    ไม้เทียมของ KSwood ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ด้วยระบบล็อคที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการติดตั้งและค่าแรง ทำให้ลูกค้าประหยัดทั้งเงินและเวลา

  • การรับประกันที่น่าเชื่อถือ
    มอบความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการรับประกันสินค้าในระยะยาว แสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในการเลือกใช้สินค้า

  • บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม
    ไม่เพียงแต่ใส่ใจในคุณภาพสินค้า แต่ยังใส่ใจในบริการหลังการขาย ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

  • ความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำ
    บริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และตกแต่งภายใน ได้เลือกใช้ไม้เทียมของ KSwood ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า

Reference

logo-ลูกค้า-kswood ฝ้าและผนังไม้เทียมภายนอก

การเลือกซื้อพื้นไม้ wpc

  • ลักษณะการใช้งาน:
    • พื้นที่ใช้งาน: กำหนดว่าจะใช้สำหรับพื้นที่ภายใน (Indoor) หรือภายนอก (Outdoor) เนื่องจาก WPC บางชนิดอาจเหมาะสำหรับใช้งานภายนอกมากกว่าภายใน หรือในทางกลับกัน
    • สภาพแวดล้อม: หากเป็นพื้นที่ภายนอกที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจัด ฝนตก หรือความชื้นสูง ควรเลือก WPC ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพอากาศเหล่านี้ได้ดี
  • การรับรองมาตรฐาน: ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานการรับรองคุณภาพหรือไม่ เช่น ISO หรือมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • พื้นผิว สีและลวดลาย: เลือกสีและลวดลายที่เข้ากับการตกแต่งโดยรวมของพื้นที่ พิจารณาพื้นผิวสัมผัสว่าต้องการแบบเรียบ แบบมีลายเสี้ยนไม้ หรือแบบอื่น
  • การรับประกัน: พิจารณาการรับประกันสินค้าจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย ซึ่งอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
  • ระบบการติดตั้ง: สอบถามเกี่ยวกับระบบการติดตั้ง เช่น ระบบคลิปล็อก หรือการยึดด้วยสกรู ซึ่งอาจมีผลต่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดตั้ง

ขั้นตอนการติดตั้งพื้นไม้ wpc

การเตรียมพื้นผิว : พื้นผิวควรเรียบเสมอกัน หากมีส่วนที่ไม่เรียบ ควรปรับระดับด้วยปูนปรับระดับ  แห้งสนิท หากเป็นพื้นคอนกรีตใหม่ ควรทิ้งให้แห้งตามระยะเวลาที่กำหนด ควรมีการออกแบบให้มีการระบายน้ำที่ดี เพื่อป้องกันน้ำขังใต้พื้น

อุปกรณ์ติดตั้ง :

  • คลิปล็อก: สำหรับระบบติดตั้งแบบซ่อนคลิป
  • สกรู : สำหรับระบบติดตั้งแบบยึดด้วยสกรูโดยตรง
  • รางรอง : สำหรับการติดตั้งบนพื้นดินหรือพื้นที่ที่ไม่เรียบ (โดยเฉพาะภายนอก)
  • ค้อนยาง : สำหรับการเคาะให้แผ่น WPC เข้าล็อกกัน
  • สว่าน: สำหรับการเจาะรูนำหรือขันสกรู
  • เลื่อย : สำหรับการตัดแผ่น WPC ให้ได้ขนาดที่ต้องการ (แนะนำเลื่อยฟันละเอียดหรือเลื่อยวงเดือนที่มีใบเลื่อยสำหรับตัดพลาสติก)
  • ตลับเมตร: สำหรับการวัดขนาด
  • ดินสอหรือปากกา: สำหรับการทำเครื่องหมาย
  • ระดับน้ำ (Spirit Level): สำหรับตรวจสอบความเรียบของพื้นผิวและการติดตั้ง
  • ถุงมือและแว่นตานิรภัย: เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

ขั้นตอนการติดตั้ง :

 

  • การติดตั้งรางรอง (สำหรับพื้นที่ภายนอกหรือตามความจำเป็น): หากมีการติดตั้งรางรอง ควรวางรางให้ได้ระดับและมีระยะห่างที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • การวางแผ่นแรก: วางแผ่น WPC แผ่นแรกให้ตรงและได้ระดับ โดยเว้นระยะห่างจากผนังตามที่กำหนด
  • การเชื่อมต่อแผ่น: เชื่อมต่อแผ่น WPC แผ่นต่อไปเข้ากับแผ่นแรกตามระบบของผลิตภัณฑ์ (เช่น การเข้าลิ้น การใช้คลิปล็อก หรือการขันสกรู)
  • การใช้คลิปล็อก (ถ้ามี): หากใช้ระบบคลิปล็อก ให้ติดตั้งคลิปล็อกเข้ากับรางรอง (ถ้ามี) หรือพื้นผิว จากนั้นวางแผ่น WPC ให้เข้าล็อกกับคลิป
  • การยึดด้วยสกรู (ถ้ามี): หากใช้ระบบยึดด้วยสกรู ให้เจาะรูนำ (ถ้าจำเป็น) แล้วขันสกรูยึดแผ่น WPC กับรางรองหรือพื้นผิว
  • การตัดแผ่น: เมื่อถึงขอบหรือมุมที่ต้องตัดแผ่น WPC ให้วัดขนาดและตัดด้วยเลื่อยอย่างระมัดระวัง
  • การติดตั้งแผ่นสุดท้าย: ติดตั้งแผ่นสุดท้ายโดยอาจต้องมีการตัดให้พอดีกับพื้นที่
  • การตรวจสอบ: ตรวจสอบความเรียบร้อยของการติดตั้ง ให้แน่ใจว่าแผ่น WPC เข้าล็อกกันสนิทและไม่มีช่องว่างที่ไม่ต้องการ

การดูแลรักษาพื้นไม้ wpc

การดูแลรักษาพื้นไม้ WPC นั้นค่อนข้างง่ายและไม่ยุ่งยาก เนื่องจากคุณสมบัติที่ไม่ดูดซึมน้ำและทนทานต่อสภาพอากาศ ทำให้การดูแลรักษาแตกต่างจากพื้นไม้จริง ต่อไปนี้คือแนวทางการดูแลรักษาพื้นไม้ WPC:

การทำความสะอาดพื้นไม้ wpc เป็นประจำ 

  • กวาดหรือดูดฝุ่น: ทำความสะอาดพื้นผิวเป็นประจำด้วยไม้กวาดขนอ่อน หรือเครื่องดูดฝุ่น เพื่อกำจัดฝุ่นผง เศษดิน ทราย หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน
  • ถูพื้น: ถูพื้นด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน ที่ออกแบบมาสำหรับพื้น WPC โดยเฉพาะ หรือน้ำสบู่อ่อนๆ
    • ใช้ผ้าม็อบไมโครไฟเบอร์ หรือผ้านุ่มๆ บิดหมาดๆ ในการถู
    • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง หรือมีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจทำลายพื้นผิว WPC
    • ไม่ควรปล่อยให้น้ำขังบนพื้นผิวนานๆ หลังการถู ควรเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด

การกำจัดคราบสกปรกพื้นไม้ wpc

  • จัดการทันที: เมื่อมีคราบสกปรกหกเลอะพื้น ให้รีบเช็ดออกทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังแน่น
  • คราบทั่วไป (เช่น อาหาร เครื่องดื่ม): ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดออก
  • คราบฝังแน่น: สำหรับคราบที่ฝังแน่น อาจลองใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับพื้น WPC  
  • คราบน้ำมันหรือจาระบี: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อยเช็ดออก แล้วเช็ดตามด้วยน้ำสะอาด
  • คราบราหรือตะไคร่น้ำ (สำหรับพื้นที่ภายนอก): สามารถใช้แปรงขัดเบาๆ ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำยาฟอกขาวเจือจาง (ตามอัตราส่วนที่แนะนำ) หรือน้ำยาฆ่าเชื้อรา/ตะไคร่น้ำโดยเฉพาะ หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ข้อควรระวังและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง สำหรับพื้นไม้ wpc

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง: เช่น น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดเข้มข้น หรือสารเคมีรุนแรงอื่นๆ
  • หลีกเลี่ยงการใช้แปรงขัดหรือฟองน้ำที่มีผิวหยาบ: อาจทำให้พื้นผิว WPC เป็นรอยได้
  • หลีกเลี่ยงการลากเฟอร์นิเจอร์หนักๆ บนพื้นโดยตรง: ควรยกหรือใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
  • หลีกเลี่ยงการทิ้งสิ่งของหนักหรือมีคมตกกระแทกพื้น: อาจทำให้พื้น WPC บุบหรือเสียหายได้
  • สำหรับพื้นที่ภายนอก:
    • ควรมีการระบายน้ำที่ดีเพื่อป้องกันน้ำขัง
    • หากมีต้นไม้หรือพุ่มไม้ใกล้เคียง ควรตัดแต่งกิ่งเพื่อไม่ให้ใบไม้หรือเศษต่างๆ ร่วงหล่นสะสมบนพื้นมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบหรือความชื้นสะสมได้

คำถามที่พบบ่อย

WPC ย่อมาจาก Wood Plastic Composite คือวัสดุที่ผลิตจากการผสมผสานระหว่างผงไม้ (ส่วนใหญ่มักเป็นไม้เนื้อแข็งบดละเอียด) และพลาสติก (เช่น HDPE หรือ PVC ที่ผ่านการรีไซเคิล) โดยมีสารเติมแต่งอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ

เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับใช้งานภายนอก เช่น พื้นระเบียง พื้นสวน พื้นสระว่ายน้ำ หรือทางเดิน เนื่องจากทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้นได้ดี
อายุการใช้งานของพื้นไม้ WPC ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุ การติดตั้ง และการดูแลรักษา โดยทั่วไปแล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10-30 ปี หรือนานกว่านั้น

การติดตั้งพื้นไม้ WPC ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะระบบคลิปล็อก (Click Lock) ซึ่งสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองหากมีทักษะพื้นฐานด้านงานช่าง หรือสามารถจ้างช่างผู้ชำนาญการ

ทนทานต่อปลวก มอด และแมลงอื่นๆ เนื่องจากส่วนประกอบหลักคือพลาสติก ซึ่งไม่เป็นอาหารของแมลงเหล่านี้

พื้นไม้ WPC อาจมีการสะสมความร้อนเมื่อโดนแสงแดดโดยตรง แต่โดยทั่วไปแล้วจะเย็นตัวเร็วกว่าพื้นผิวบางชนิด เช่น คอนกรีต หรือกระเบื้องสีเข้ม

โดยทั่วไปแล้วไม่แนะนำให้ทาสีหรือย้อมสีพื้นไม้ WPC เนื่องจากสีอาจไม่ยึดเกาะได้ดี และอาจทำให้พื้นผิวเสียหายได้ ควรเลือกสีและลวดลายของ WPC ที่ต้องการตั้งแต่แรก

สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เช่น พื้นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว ระเบียง ทางเดิน สวน สระว่ายน้ำ