เพราะบางที เทคโนโลยีก็ยังสู้ธรรมชาติไม่ได้ การสร้างบ้านก็เช่นกัน เมื่อจุดประสงค์คือการได้บ้านที่มีความสุข ผ่อนคลาย อากาศดี และเป็นบ้านที่ไม่อยู่ในจุดมุมอับไม่มีลมพัดผ่าน แสงแดดถาโถม เพราะอาจทำให้ความสุขของการอยู่บ้านลดลงได้

ซึ่งในปัจจุบัน มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับปัญหาบ้านร้อน ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ “ปัญหาค่าไฟ” อันเป็นค่าใช้จ่ายเสริมที่ต้องเพิ่มขึ้นมา เนื่องจากเปิดแอร์หนักมาก!

แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้บ้านประหยัดพลังงานเพราะอากาศดี เพียงแต่ต้องเริ่มต้นกันตั้งแต่การสร้างบ้านเลยทีเดียว ก็คือการสร้างบ้านให้สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบๆ บ้าน เพื่อการหยิบธรรมชาติรอบๆ มาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง จะมีอะไรบ้างที่พอจะหยิบมาใช้ได้ ไปดูกัน

1.สร้างบ้านตามทิศทางลม

โดยบ้านที่หันหน้าไปยังทิศเหนือ หรือทิศใต้ จะช่วยให้บ้านมีบรรยากาศที่ดี ผ่อนคลาย เย็นสบายตลอดทั้งวัน เนื่องจากเป็นทิศที่มีลมเข้าบ้านอยู่ตลอด ดังนั้นจึงเป็นการประหยัดพลังงานจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง “แอร์” เพราะหากบ้านร้อน ไม่เพียงแต่ต้องเปิดเป็นประจำทั้งวันเท่านั้น แต่ยังเสียค่าไฟมากจากการปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เย็นตัวลงอีกด้วย

2.แผงโซลาเซลล์ระยะยาว

แผงโซลาเซลล์ดูจะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างนิยมในปัจจุบัน เพราะสามารถแปลงพลังงานแสงแดดให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้านได้ ถึงแม้ราคาในการใช้แผงโซลาเซลล์จะค่อนข้างสูง แต่เชื่อได้เลยว่าหากใช้เป็นประจำในระยะยาว จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมากแน่นอน

3.เลือกใช้สีทาบ้านที่ช่วยลดความร้อน

ปัจจุบันมีแบรนด์สีทาบ้านต่างๆ มากมายที่โฆษณาว่าช่วยลดความร้อน ทั้งกันความร้อนไม่ให้เข้าบ้าน และสะท้อนความร้อนออกนอกบ้าน รวมถึงระบายความร้อนในตัวบ้านออกได้อีกด้วย ลองไปเลือกหามาใช้กันดู

4.บ้านไม้แห่งความเย็น

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบบ้านที่ประกอบด้วยวัสดุประเภทไม้เป็นชีวิตจิตใจ เนื่องจากบ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยไม้ อย่างบ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือบ้านดีไซน์แบบเรือนไทยโบราณ จะช่วยลดความร้อนภายในบ้าน รวมถึงช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้สะดวก

5.เลือกวัสดุธรรมชาติ

การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ โดยไม่ผ่านกรรมวิธีทางเคมีเยอะ นอกจากจะช่วยโลก และทำให้บ้านเย็นสบายกว่าวัสดุเคมีเข้มข้นแล้ว ยังทำให้สุขภาพของคนในบ้านดีอีกด้วย

เพียงเท่านี้ก็จะได้บ้านที่น่าอยู่ ไม่น่าอึดอัด บรรยากาศเย็นสบายไว้พักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่แล้ว!